เมธาวี จรรยานนท์วิทย์ เขียน
สุชานันท์ กกกระโทก พิสูจน์อักษร
เบญจพร อ่อนทอง ภาพประกอบ
หากคุณไปสักการะขอพรจากพระพิฆเนศ คุณอาจจะเห็นรูปปั้นหนูที่ตั้งอยู่ด้านหน้ารูปปั้นของพระองค์ ซึ่งผู้คนมากมายต่างไปกระซิบคำอธิษฐานตรงหูข้างหนึ่งของหนู และนำมืออีกข้างปิดหูไว้ เพื่อย้ำพรที่ตนได้ขอพระพิฆเนศไว้ หนูตัวนั้นคือ มุสิกะ สัตว์พาหนะและบริวารของพระพิฆเนศ คุณอาจสงสัยว่าสัตว์ตัวจิ๋วชนิดนี้กลายเป็นสัตว์พาหนะและบริวารของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์นี้ได้อย่างไร ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอยกตำนานมุสิกะขึ้นมาเล่า ซึ่งมีอยู่หลากหลายตำนาน แต่ตำนานที่มีการกล่าวถึงไว้มากที่สุดนั้นมีถึง 4 ตำนานด้วยกัน โดยเรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามอ่านในบรรทัดต่อไปได้เลยค่ะ

ตำนานที่หนึ่ง: ราชาหนูแห่งเขาไกรลาศ
ในตำนานแรกนี้ เรื่องราวอาจไม่หวือหวาเท่าไรนัก เป็นเพียงแค่ประวัติคร่าว ๆ ว่าหนูมุสิกะเป็นราชาแห่งหนูทั้งปวงซึ่งอยู่บนเขาไกรลาศ และเป็นเพื่อนเล่นกับพระพิฆเนศตั้งแต่พระองค์ยังเยาว์วัย จนเมื่อพระพิฆเนศทรงเติบใหญ่ขึ้น มุสิกะก็ได้เป็นข้ารับใช้และสัตว์พาหนะของพระองค์ในเวลาต่อมา
ตำนานที่สอง: อสูรภังคีผู้ถูกสยบด้วยพระสุรเสียงของพระพิฆเนศ
ในตำนานนี้ อสูรภังคีเป็นอสูรที่มีลักษณะเป็นช้างน้ำ มีบริวารมากมาย อสูรตนนี้มักรุกรานมนุษย์และเทวดาจนเรื่องทราบไปถึงพระพิฆเนศ พระพิฆเนศจึงเสด็จลงมาปราบอสูรภังคีด้วยพระวรกายที่ใหญ่โต พร้อมกับตวาดด้วยเสียงอันดังก้อง เมื่ออสูรภังคีได้ยินเสียงตวาดของเทพเจ้าผู้มีใบหน้าเป็นคชสารก็เกิดความกลัว จึงขอขมาและขอถวายตัวเป็นข้ารับใช้ โดยแปลงกายเป็นหนูรับใช้พระพิฆเนศตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตำนานที่สาม: อดีตคนธรรพ์ที่ถูกสาป
ในตำนานนี้ แต่เดิมที หนูมุสิกะเคยเป็นคนธรรพ์มาก่อน (บางแหล่งก็ว่าเป็นเทวดา) ครั้งหนึ่ง ในการประชุมเทวสภา คนธรรพ์ผู้นี้เผลอไปเหยียบนิ้วหัวแม่เท้าของพระฤาษีวามเทพโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงถูกพระฤาษีวามเทพสาปให้กลายเป็นหนู คนธรรพ์จึงขอให้พระฤาษีถอนคำสาป เพราะตนเองไม่ได้ตั้งใจ แต่คำสาปที่สาปไปแล้วนั้นไม่สามารถถอนได้ พระฤาษีจึงนำหนูไปไว้ที่อาศรมของปรศุราม ด้วยนิสัยของหนูที่ชอบขุดคุ้ยอาหาร คนธรรพ์ในร่างหนูจึงติดนิสัยแบบหนู เที่ยวกินเมล็ดข้าวในยุ้งฉางของปรศุราม เมื่อพระพิฆเนศมาเห็นก็ทราบว่าไม่ใช่หนูธรรมดา จึงใช้บ่วงบาศจับมาเป็นพาหนะ หนูจึงกลายเป็นสัตว์พาหนะของพระพิฆเนศในเวลาต่อมา
ตำนานที่สี่: อดีตปีศาจคชสาร
สำหรับตำนานสุดท้ายนี้ แต่เดิม หนูมุสิกะคือ คชมุขาสูร (บางแหล่งก็ว่าชื่อ กาจามุกะ) ปีศาจคชสาร (ช้าง) ที่มีรูปร่างอันใหญ่โตมโหฬาร คชมุขาสูรได้ก่อความวุ่นวายไปทั่วสามโลก ได้แก่ สวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกบาดาล เพราะทระนงว่าตนได้รับพรจากพระศิวะ ซึ่งเป็นพรที่คุ้มครองตนจากภยันตรายที่มาจากเทพและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วยความที่พระพิฆเนศอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั้งปวง อีกทั้งยังมีสถานะเป็นกึ่งเทพกึ่งคชสาร ดังนั้นเหล่าเทพจึงมอบหมายให้พระพิฆเนศลงไปทำสงครามปราบปรามคชมุขาสูร ในระหว่างที่ทำสงครามนั้น พระพิฆเนศได้หักงาข้างขวาขว้างเป็นหอกเข้าใส่และกระทืบร่างของคชมุขาสูรจนมันบาดเจ็บ และแปลงกายเป็นหนูยักษ์เพื่อหลบหนี แต่พระพิฆเนศก็ขึ้นขี่หลังและปราบปรามจนสิ้นฤทธิ์ คชมุขาสูรจึงขอขมาที่ล่วงเกินเหล่าเทพต่าง ๆ และกลายเป็นสัตว์พาหนะของพระพิฆเนศในเวลาต่อมา

จากตำนานต่าง ๆ ที่ยกมานี้ แม้ว่าหนูในภาพจำของเราจะเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ที่ก่อความรำคาญและชอบกัดแทะ ขุดคุ้ยอาหาร แต่ในความเชื่อของศาสนาฮินดู หนูก็มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่อย่างการเป็นสัตว์พาหนะและบริวารของเทพเจ้าได้เหมือนกัน อีกทั้งตำนานเหล่านี้ยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเมตตาและพระทัยที่กว้างขวางของพระพิฆเนศเองที่ให้โอกาสสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กนี้ได้ทำหน้าที่สำคัญอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://ms-my.facebook.com/byDinjinda/posts/827664104089133
https://www.siamganesh.com/musika.html
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.ev9thailand.com/content/18649/เคล็ดลับขอพร-พระพิฆเนศ-เห็นผลเร็ว